Monday, May 26, 2008

Jakrapop decides to fight


"จักรภพ"ประกาศสู้ยิบตา คดีดูหมิ่นเบื้องสูง


ได้เวลา : นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือถอดถอน นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ระบุถึงพฤติกรรมที่เข้าข่ายใช้อำนาจหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญและจะยื่นให้ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป

ท้าตำรวจรีบเช็คบิล "ทักษิณ"สั่งให้ถอย

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อเช้าวันที่21 พฤษภาคมกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นสถาบันว่า ถ้านายจักรภพไม่สามารถชี้แจงต่อสังคมได้ ก็ต้องถอย เพราะการอธิบายต้องมีความชัดเจน และคนไทยก็อ่อนไหว ต่อเรื่องสถาบัน ตนไม่อยากให้นำเรื่องสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมืองเพราะสถาบันต้องอยู่สูงกว่าการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจักรภพควรดำเนินการอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นายจักรภพก็มีวิจารณญาณในการฟังกระแสสังคมว่าเป็นอย่างไร ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า นายจักภพ ต้องพิสูจน์ความจริง หากผิดก็ต้องพิจารณาตัวเอง
ส่วน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากรณีของนายจักรภพ ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสอบสวนข้อเท็จจริงตามกระบวนการ โดยหากเข้าถึงศาลก็ควรต้องออกจากตำแหน่งซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้ นายจักรภพ มีสิทธิ์ในการทำหน้าที่ต่อได้
ทั้งนี้ ตนได้อ่านคำแปลแล้วทั้งภาษาไทยและอังกฤษแต่ไม่ขอออกความเห็น ส่วนการให้ความเห็นของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี นั้นไม่ขอออกความคิดเห็นเช่นกัน

แนะเพ็ญรับผิด-ขออภัยโทษ
วันเดียวกัน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายจักรภพ ว่า เรื่องนี้ต้องมาพิสูจน์กันว่าข้อความที่กล่าวไปนั้นไปพาดพิงสถาบันหรือไม่ อันนี้คิดว่าทางตำรวจและฝ่ายความมั่นคงเขาคงจะได้ดูแล
เมื่อถามว่าในช่วงที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจสอบข้อมูลจะให้คำแนะนำอะไรกับนายจักรภพ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คิดว่าถ้าท่านรัฐมนตรีนายจักรภพหยุดให้สัมภาษณ์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตนคิดว่าความจริงก็คงจะปรากฏขึ้นมา
"เรื่องนี้ทางฝ่ายทหารเขาคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นสถาบันสูงสุดและทหารก็เป็นราชองครักษ์ทุกคน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องติดตาม ผมคิดว่าทุกฝ่ายควรหันหน้ามาพูดกัน แก้กันอย่างไร หยุดกันอย่างไร อะไรที่ผิดพลาดก็ต้องยอมรับผิด อะไรที่ผิดพลาดไปแล้ว โอกาสที่จะขออภัยโทษ หรือขออะไรก็ยังมีอยู่ เพราะเป็นผู้บริหารประเทศนี่"พล.ต.สนั่น กล่าว

ชูศักดิ์เตือนทุกฝ่ายต้องตระหนัก
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นว่า สือควรจะต้องระมัดระวังในการเสนอ ข่าว และอยากฝากขอเสนอแนะในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง วิธีการเคารพเทิดทูลสถาบันที่ดีที่สุดคืออย่าเอามาพูดกันทางสื่อ ทางอะไรต่างๆ
"แม้แต่ข้อบังคับการประชุมสภาฯเขายังพูดไว้ชัดห้ามพูดถึงสถาบันโดยไม่จำเป็น เขามีเจตนารมณ์ชัดเจน ขอฝากไว้แค่นี้"นายชูศักดิ์ กล่าว

"เจ้เพ็ญ"ประกาศขอสู้ตาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 17.40 น. นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้คนติดตามนำหนังสือบันทึกข้อความฉบับที่ นร.0405 (ลต.2)/3737 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม เรื่อง กรณีไปบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษแก่สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ(FCCT) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ไปแจกจ่ายสื่อมวลชน
โดยมีข้อความว่า กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ตามที่มีพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้นำเอากรณีที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีแก่กระผม ในกรณที่กระผมได้ไปบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษแก่สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ(FCCT) ในวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2550 ก่อนที่จะได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนบัดนี้พรรคการเมืองฝ่ายค้านได้นำมาเป็นประเด็นกล่าวหากระผมว่า การบรรยายดังกล่าวเป็นความผิดต่อกฎหมายนั้น

ฟ้าผ่าเปรี้ยงหลังเพ็ญประกาศสู้
กระผมได้พิจารณาต่อกรณีที่ถูกกล่าวหาโดยตระหนักแล้วเห็นว่า เพื่อให้กรณีตามที่กระผมได้ถูกกล่าวหาเป็นที่ยุติว่ากระผมได้กระทำความผิดหรือไม่ประการใดนั้น กระผมขอกราบเรียนว่ากระผมพร้อมที่จะพิสูจน์ความผิดและความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่า กระผมได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ประการใดนั้น พนักงานสอบสวนอาจจะมีความลำบากใจในการที่จะทำการสืบสวนสอบสวน ดำเนินคดีกับกระผม ก็อาจจะเป็นได้
เพื่อให้กรณีที่ถูกกล่าวหาเป็นที่ยุติจึงขอกราบเรียนต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อได้โปรดแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้พนักงานสอบสวนทำการสืบสวนสอบสวน กรณีดังกล่าวให้ยุติหมดสิ้นกระแสความ ซึ่งหากปรากฏว่ากระผมได้กระทำความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา กระผมก็พร้อมที่จะให้ดำเนินคดีและพร้อมที่จะรับโทษทัณฑ์ตามกฎหมาย
จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาและสั่งการตามที่เห็นสมควร นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่คนติดตามนายจักรภพ ได้นำเอกสารมาแจกปรากฏว่าเกิดเหตุฟ้าผ่ากะทันหัน ทำให้ไฟดับทั้งทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลากว่า 20 วินาที

เผย"เจ๊เพ็ญ"เครียดจัด
มีรายงาน่า เมื่อเวลาเวลา 10.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการต่างประเทศในระดับชาติ ขณะที่นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกฯที่มีรายชื่อในการประชุมด้วย ไม่ได้มาร่วมระชุม
คนใกล้ชิด นายจักรภพ เปิดเผยว่า นายจักรภพ ค่อนข้างเครียดกับกระแสกดดันให้ลาออกมาก และในตอนบ่าย นายจักรภพ ได้เดินทางไปพบผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่นับถือและทีมทนายความเพื่อหารือว่าควรจะทำอย่างไร นอกจากนี้นายจักรภพยกเลิกกำหนดการไปเยือนฟิลิปปินส์ร่วมกับนายสมัครในวันที่ 22พ.ค.แล้ว เพื่อเตรียมชี้แจงเรื่องการพาดพิงสถาบันด้วย

ฝ่ายค้านยื่นถอดเจ้เพ็ญแล้ว
ด้าน สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายอลงกรณ์ พลบุตร เข้ายื่นหนังสือต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอนนายจักรภพ เพ็ญแข ออกจากรัฐมนตรี เนื่องจากมีข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย และส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 271 ของรัฐธรรมนูญ
นายประสพสุขกล่าวว่า เรื่องการตรวจเอกสารคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันศุกร์นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินวันจันทร์ และจะนำส่งต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ซึ่งตนจะทำหนังสือแจ้งไปยังสมาชิกวุฒิสภาทุกท่านว่าขณะนี้มีเรื่องการยื่นถอดถอนเข้ามาแล้ว

เหลิมเดินหน้าจัดการเว็ปไซด์
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตนตั้งหน่วยรับผิดชอบเกี่ยวกับข้อความที่ไม่สมควร และไม่บังควรในเว็บไซต์ และได้ทำหนังสือถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ตั้งเจ้าหน้าที่กรมการปกครองไปดำเนินการแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่บัดนี้ต้นไป เพื่อค้นหาต้นตอของเว็บไวต์ที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน โดยใช้เวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก็จะทราบว่าต้นตอของเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่ที่ใด จากนั้นก็จะขอหมายศาลไปจับ และเวลาไปตรวจค้นตนจะไปดูด้วยตัวเอง
"ความจริงแล้วใช้เวลาเพียงแค่ 1 -2 ชั่วโมงก็รู้แล้วว่าต้นตอมาจากที่ไหน แต่อยากฝากเตือนไปยังเจ้าของเว็บไซต์ที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันว่า ถึงแม้มีต้นตอมาจากต่างประเทศ ก็ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา กฎหมายสารสนเทศ กฎหมายคอมพิวเตอร์ ความผิดทางปกครอง ซึ่งหากเจ้าของเว็บเห็นแล้วไม่ยอมดำเนินการก็จะถือว่ามีส่วนร่วมในการเผยแพร่สนับสนุน ซึ่งถือว่าเป็นความผิดที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทย และดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ขึ้นศาลไทย" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว และว่า ตนจะใช้วิธีเจรจาไปยังหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นระบบ และจริงจัง เชื่อว่าสุดท้ายจะแก้ไขสถานการณ์ได้

"มั่น"ไฟเขียวให้เข้าไปจัดการ
นายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร(ไอซีที) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต(ไอเอสพี) ยังไม่กล้าปิดกั้น(บล็อก)เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลที่ส่อหมิ่นสถาบันได้ทันทีหลังจากที่มีการตรวจพบ เพราะเกรงว่าจะเข้าข่ายกระทำความผิด ตามกฎหมายของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ว่าด้วยการห้ามปิดกั้นการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้นถอดถอนใบอนุญาต แต่หลังจากที่กระทรวงไอซีที ได้หารือกับ กทช. แล้ว ก็จะเป็นผู้รับประกันให้กับไอเอสพีทุกรายว่าจะไม่ถูกถอดถอนใบอนุญาตแน่นอน หากสกัดกั้นเว็บไซต์ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างแท้จริง

ทัพบกเตือนอย่าพาดพิงสถาบัน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า หลักเทิดพระเกียรติง่ายๆคือต้องไม่ทำอะไรไปเข้าใกล้แม้แต่นิดเดียวนายกรัฐมนตรีมีแนวทางแน่ชัดในการแก้ปัญหาอย่าง ซึ่งเหล่าทัพมีความกังวล ทั้งนี้ ทุกคนไม่ควรนำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องและไม่ควร พูด
เมื่อถามถึงกรณีที่นายจักรภพ ออกมาระบุว่าภรรยานายทหารเป็นผู้แปลคำกล่าว พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบแต่ได้อ่านเอกสารคำแปลแล้ว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พล.อ.อนุพงษ์ ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีประมาณครั่งชั่วโมงคาดว่าเป็นการหารือกรณีนายจักรภพ

ที่มา : ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ แนวหน้า วันที่ 22/5/2008
http://www.naewna.com/news.asp?ID=109943



No comments:

Google