Monday, May 26, 2008

Hidden Agenda in Jakrapop Penkair's eyes (4)


เป้าหมายแท้จริงที่สะท้อนผ่านจักรภพ (4)

จักรภพพูดไว้ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย เมื่อเดือนกันยายน 2550 ว่า ทักษิณเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน เพราะทักษิณเป็นผู้ทำชีวิตประชาชนให้ดีขึ้นจากเดิมมากกว่า โดยเฉพาะประโยคของจักรภพที่กล่าวว่า "นายกฯทักษิณได้กำจัดอำนาจของระบบอุปถัมภ์ และเปลี่ยนให้เป็นนโยบายสาธารณะ"

จักรภพเปลือยออกมาอย่างล่อนจ้อน

เปลือยให้เห็นเป้าหมายแท้จริงที่ต้องกำจัด

จักรภพยังได้พูดถึงทักษิณต่อไปอีกว่า "ทักษิณไม่ได้รับความไว้วางใจเพราะทักษิณละเมิดกฎของการพึ่งพาอาศัย ท่านเริ่มเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น และนั่นคือบาปในระบบอุปถัมภ์ ทักษิณทำถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับประวัติศาสตร์จะเป็นผู้ตัดสิน คุณสามารถลากเขาขึ้นศาลได้ไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือสิ่งที่ท่านทิ้งไว้ให้กับประเทศไทย เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่เคยรู้สึกมาก่อน"

จักรภพกำลังกล่าวหาระบบอุปถัมภ์ใช่หรือไม่

กล่าวหาว่าการที่ทักษิณไม่ได้รับความไว้วางใจ เพราะทักษิณละเมิดกฎของการพึ่งพาอาศัย ซึ่งจักรภพเคยชี้นำมาก่อนหน้านี้แล้วว่าคือระบบอุปถัมภ์นั่นเอง

จักรภพเชิดชูทักษิณอย่างสุดๆ ในขณะที่ "ระบบอุปถัมภ์" ตามความเข้าใจของจักรภพนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของจักรภพหรืออย่างไรกันแน่

จักรภพได้พูดต่อไปอีกว่า

"ท่านเกือบไม่ได้ทำอะไรให้คนกรุงเทพฯเลย เพราะท่านรู้สึกว่าคนกรุงเทพฯไม่ต้องการท่านมากนัก ถ้าคุณถามคนกรุงเทพฯว่าทักษิณทำอะไรให้พวกเขาบ้าง คงต้องใช้เวลาสัก 2 สัปดาห์กว่าพวกเขาจะนึกออก แต่ถ้าคุณถามประชาชนระดับรากหญ้า พวกเขาสามารถบอกได้ทันที 10 อย่างที่พวกเขารู้สึกว่าได้จากระบบใหม่ของทักษิณ ถ้าถามว่าทักษิณให้ความอุปถัมภ์พวกเขาหรือไม่ ก็อาจเป็นได้ แต่ท่านมิได้หมายความว่าจะต้องทำด้วยวิธีนั้น"

จักรภพไม่เข้าใจหรือแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจกันแน่ว่า คนกรุงเทพฯนั้นเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกับข้อมูลข่าวสารมากกว่าคนในชนบท ได้รับการศึกษาสูงกว่าคนในชนบท คนกรุงเทพฯคิดเองได้ว่าใครเป็นอย่างไร เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน และปูมหลังความเป็นมาตลอดจนพฤติกรรมในอดีตของทักษิณ นั้นเป็นอย่างไร คนกรุงเทพฯบอกได้โดยไม่ต้องมีใครไปเป่าหูให้เชื่อตาม

จักรภพนำข้อเท็จจริงมาพูดบ้างก็จะดี

คำพูดต่อไปของจักรภพในวันนั้น จักรภพบอกว่า

"ท่านถูกยึดอำนาจขณะที่กำลังรอที่จะกล่าวปราศรัยในที่ประชุมสหประชาชาติ หลังการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เราวางแผนที่จะจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แต่โทรศัพท์จากกรุงเทพฯได้เปลี่ยนแผนทั้งหมด ผมคิดว่าเราพลาด เราควรทำตามแผน เราควรทำให้คณะปฏิรูป รัฐบาลสุรยุทธ์ และพรรคพวกของเขากลายเป็นพวกนอกกฎหมายเช่นเดียวกับเฮงสัมริน กับรัฐบาลฮุนเซ็น เมื่อหลายปีก่อน เราควรทำเช่นนั้น แต่โทรศัพท์จากกรุงเทพฯทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เราจะทำอะไรได้ ผมเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ในคณะผู้ติดตาม ตอนนั้นผมเป็นผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผมควรจะยืนกรานในเรื่องรัฐบาลพลัดถิ่น และถ้าจะเกิดการเผชิญหน้าการปะทะกันก็ปล่อยให้มันเกิดไป"

จักรภพพูดถึงการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

พูดอย่างไม่คิดว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนในการหาประเทศที่จะยินยอมพร้อมใจร่วมมือด้วย หรือให้การรับรอง

จักรภพยังพูดต่อไปอีกว่า

"เรากำลังพูดถึงแง่มุมประวัติศาสตร์ว่า แม้แต่นายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน สิ่งที่ท่านทำเป็นการปลดปล่อยประชาชนจากระบบอุปถัมภ์ แต่เมื่อมีการตัดสินใจครั้งสำคัญ ท่านก็ตัดสินใจออกจากระบบอุปถัมภ์ ระบบอุปถัมภ์หยั่งรากลึกและขัดแย้งโดยตรงกับการทำให้เป็นประชาธิปไตย เราต้องทำการเปลี่ยนแปลง

เราต้องถามว่าใครกันที่คอยให้การอุปถัมภ์ประชาชน และผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำเช่นนั้น เมื่อคุณเข้าคุกมาแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่เป็นไร เราเข้าคุกอีกได้เพื่อให้วัตถุประสงค์ของเราเป็นจริง ไม่เป็นไรเลย"

ชัดเจนหรือไม่ว่าจักรภพต้องการอะไร

คงไม่มีอะไรที่เคลือบแคลงสงสัยต่อไปอีกแล้วใช่หรือไม่ว่า คำพูดของจักรภพในประโยคที่ว่า "สิ่งที่ท่านทำเป็นการปลดปล่อยประชาชนจากระบบอุปถัมภ์ ระบบอุปถัมภ์หยั่งรากลึกและขัดแย้งโดยตรงกับการทำให้เป็นประชาธิปไตย เราต้องทำการเปลี่ยนแปลง" นั้นเป็นคำพูดที่บอกให้รู้ว่าทักษิณต้องการทำอะไร

ต้องการเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จ

เป็นประชาธิปไตยที่ใม่ใช่ "การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" หรือเปล่า

ผู้เขียน : ตาโป๋เป่าปี่
คอลัมน์ : กวนใจให้สะอาด หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 23/5/2008



No comments:

Google